เมนู

‘‘กถญฺจรหิ , สมณ, ภุญฺชสี’’ติ? ‘‘เย หิ เกจิ, ภคินิ, สมณพฺราหฺมณา [สมณา วา พฺราหฺมณา วา (สี.) นิคมนวากฺเย ปน สพฺพตฺถาปิ สมาโสเยว ทิสฺสติ] วตฺถุวิชฺชาติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิกํ [ชีวิตํ (ก.)] กปฺเปนฺติ, อิเม วุจฺจนฺติ, ภคินิ, สมณพฺราหฺมณา ‘อโธมุขา ภุญฺชนฺตี’ติฯ เย หิ เกจิ, ภคินิ, สมณพฺราหฺมณา นกฺขตฺตวิชฺชาติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิกํ กปฺเปนฺติ, อิเม วุจฺจนฺติ, ภคินิ, สมณพฺราหฺมณา ‘อุพฺภมุขา ภุญฺชนฺตี’ติฯ เย หิ เกจิ, ภคินิ, สมณพฺราหฺมณา ทูเตยฺยปหิณคมนานุโยคาย [… นุโยคา (สี. สฺยา. กํ. ปี.), … นุโยเคน (?)] มิจฺฉาชีเวน ชีวิกํ กปฺเปนฺติ, อิเม วุจฺจนฺติ, ภคินิ, สมณพฺราหฺมณา ‘ทิสามุขา ภุญฺชนฺตี’ติฯ เย หิ เกจิ, ภคินิ, สมณพฺราหฺมณา องฺควิชฺชาติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิกํ กปฺเปนฺติ, อิเม วุจฺจนฺติ, ภคินิ, สมณพฺราหฺมณา ‘วิทิสามุขา ภุญฺชนฺตี’’’ติฯ

‘‘โส ขฺวาหํ, ภคินิ, น วตฺถุวิชฺชาติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิกํ กปฺเปมิ, น นกฺขตฺตวิชฺชาติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิกํ กปฺเปมิ, น ทูเตยฺยปหิณคมนานุโยคาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิกํ กปฺเปมิ, น องฺควิชฺชาติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิกํ กปฺเปมิฯ ธมฺเมน ภิกฺขํ ปริเยสามิ; ธมฺเมน ภิกฺขํ ปริเยสิตฺวา ภุญฺชามี’’ติฯ

อถ โข สูจิมุขี ปริพฺพาชิกา ราชคเห รถิยาย รถิยํ, สิงฺฆาฏเกน สิงฺฆาฏกํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาโรเจสิ – ‘‘ธมฺมิกํ สมณา สกฺยปุตฺติยา อาหารํ อาหาเรนฺติ; อนวชฺชํ [อนวชฺเชน (ก.)] สมณา สกฺยปุตฺติยา อาหารํ อาหาเรนฺติฯ เทถ สมณานํ สกฺยปุตฺติยานํ ปิณฺฑ’’นฺติฯ ทสมํฯ

สาริปุตฺตสํยุตฺตํ สมตฺตํฯ

ตสฺสุทฺทานํ –

วิเวกชํ อวิตกฺกํ, ปีติ อุเปกฺขา จตุตฺถกํ;

อากาสญฺเจว วิญฺญาณํ, อากิญฺจํ เนวสญฺญินา;

นิโรโธ นวโม วุตฺโต, ทสมํ สูจิมุขี จาติฯ

8. นาคสํยุตฺตํ

1. สุทฺธิกสุตฺตํ

[342] สาวตฺถินิทานํ ฯ ‘‘จตสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, นาคโยนิโยฯ กตมา จตสฺโส? อณฺฑชา นาคา, ชลาพุชา นาคา, สํเสทชา นาคา, โอปปาติกา นาคา – อิมา โข, ภิกฺขเว, จตสฺโส นาคโยนิโย’’ติฯ ปฐมํฯ

2. ปณีตตรสุตฺตํ

[343] สาวตฺถินิทานํฯ ‘‘จตสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, นาคโยนิโยฯ กตมา จตสฺโส? อณฺฑชา นาคา, ชลาพุชา นาคา, สํเสทชา นาคา, โอปปาติกา นาคาฯ ตตฺร , ภิกฺขเว, อณฺฑเชหิ นาเคหิ ชลาพุชา จ สํเสทชา จ โอปปาติกา จ นาคา ปณีตตราฯ ตตฺร, ภิกฺขเว, อณฺฑเชหิ จ ชลาพุเชหิ จ นาเคหิ สํเสทชา จ โอปปาติกา จ นาคา ปณีตตราฯ ตตฺร, ภิกฺขเว, อณฺฑเชหิ จ ชลาพุเชหิ จ สํเสทเชหิ จ นาเคหิ โอปปาติกา นาคา ปณีตตราฯ อิมา โข, ภิกฺขเว, จตสฺโส นาคโยนิโย’’ติฯ ทุติยํฯ

3. อุโปสถสุตฺตํ

[344] เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ อถ โข อญฺญตโร ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ อณฺฑชา นาคา อุโปสถํ อุปวสนฺติ โวสฺสฏฺฐกายา จ ภวนฺตี’’ติ?

‘‘อิธ , ภิกฺขุ, เอกจฺจานํ อณฺฑชานํ นาคานํ เอวํ โหติ – ‘มยํ โข ปุพฺเพ กาเยน ทฺวยการิโน อหุมฺห, วาจาย ทฺวยการิโน, มนสา ทฺวยการิโนฯ เต มยํ กาเยน ทฺวยการิโน, วาจาย ทฺวยการิโน, มนสา ทฺวยการิโน, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปนฺนาฯ

สจชฺช มยํ กาเยน สุจริตํ จเรยฺยาม, วาจาย สุจริตํ จเรยฺยาม, มนสา สุจริตํ จเรยฺยาม, เอวํ มยํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺยามฯ หนฺท, มยํ เอตรหิ กาเยน สุจริตํ จราม, วาจาย สุจริตํ จราม, มนสา สุจริตํ จรามา’ติฯ อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ อณฺฑชา นาคา อุโปสถํ อุปวสนฺติ โวสฺสฏฺฐกายา จ ภวนฺตี’’ติฯ ตติยํฯ

4. ทุติยอุโปสถสุตฺตํ

[345] สาวตฺถินิทานํ ฯ อถ โข อญฺญตโร ภิกฺขุ เยน ภควา…เป.… เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ ชลาพุชา นาคา อุโปสถํ อุปวสนฺติ โวสฺสฏฺฐกายา จ ภวนฺตี’’ติ? ‘‘อิธ, ภิกฺขุ…เป.… อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ ชลาพุชา นาคา อุโปสถํ อุปวสนฺติ โวสฺสฏฺฐกายา จ ภวนฺตี’’ติฯ จตุตฺถํฯ

5. ตติยอุโปสถสุตฺตํ

[346] สาวตฺถินิทานํฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ สํเสทชา นาคา อุโปสถํ อุปวสนฺติ โวสฺสฏฺฐกายา จ ภวนฺตี’’ติ? ‘‘อิธ, ภิกฺขุ…เป.… อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ สํเสทชา นาคา อุโปสถํ อุปวสนฺติ โวสฺสฏฺฐกายา จ ภวนฺตี’’ติฯ ปญฺจมํฯ

6. จตุตฺถอุโปสถสุตฺตํ

[347] สาวตฺถินิทานํฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ โอปปาติกา นาคา อุโปสถํ อุปวสนฺติ โวสฺสฏฺฐกายา จ ภวนฺตี’’ติ?

‘‘อิธ, ภิกฺขุ, เอกจฺจานํ โอปปาติกานํ นาคานํ เอวํ โหติ – ‘มยํ โข ปุพฺเพ กาเยน ทฺวยการิโน อหุมฺห, วาจาย ทฺวยการิโน, มนสา ทฺวยการิโนฯ เต มยํ กาเยน ทฺวยการิโน, วาจาย ทฺวยการิโน, มนสา ทฺวยการิโน, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปนฺนาฯ

สจชฺช มยํ กาเยน สุจริตํ จเรยฺยาม , วาจาย… มนสา สุจริตํ จเรยฺยาม, เอวํ มยํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺยามฯ หนฺท, มยํ เอตรหิ กาเยน สุจริตํ จราม, วาจาย… มนสา สุจริตํ จรามา’ติฯ อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺเจ โอปปาติกา นาคา อุโปสถํ อุปวสนฺติ โวสฺสฏฺฐกายา จ ภวนฺตี’’ติฯ ฉฏฺฐํฯ

7. สุตสุตฺตํ

[348] สาวตฺถินิทานํฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ ?

‘‘อิธ, ภิกฺขุ, เอกจฺโจ กาเยน ทฺวยการี โหติ, วาจาย ทฺวยการี โหติ, มนสา ทฺวยการี โหติฯ ตสฺส สุตํ โหติ – ‘อณฺฑชา นาคา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา’ติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติฯ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติฯ อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติฯ สตฺตมํฯ

8. ทุติยสุตสุตฺตํ

[349] สาวตฺถินิทานํฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ชลาพุชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ?…เป.… อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ชลาพุชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตีติฯ อฏฺฐมํฯ

9. ตติยสุตสุตฺตํ

[350] สาวตฺถินิทานํฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สํเสทชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ?…เป.… อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สํเสทชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตีติฯ นวมํฯ

10. จตุตฺถสุตสุตฺตํ

[351] สาวตฺถินิทานํฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ?

‘‘อิธ, ภิกฺขุ, เอกจฺโจ กาเยน ทฺวยการี โหติ, วาจาย ทฺวยการี, มนสา ทฺวยการีฯ ตสฺส สุตํ โหติ – ‘โอปปาติกา นาคา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา’ติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติฯ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติฯ อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติฯ ทสมํฯ

11-20. อณฺฑชทานูปการสุตฺตทสกํ

[352-361] เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ?

‘‘อิธ, ภิกฺขุ, เอกจฺโจ กาเยน ทฺวยการี โหติ, วาจาย ทฺวยการี, มนสา ทฺวยการีฯ ตสฺส สุตํ โหติ – ‘อณฺฑชา นาคา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา’ติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติฯ โส อนฺนํ เทติฯ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติฯ

อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ…เป.… อุปปชฺชตีติ…เป.… โส ปานํ เทติ…เป.… วตฺถํ เทติ…เป.… ยานํ เทติ…เป.… มาลํ เทติ…เป.… คนฺธํ เทติ…เป.… วิเลปนํ เทติ…เป.… เสยฺยํ เทติ…เป.… อาวสถํ เทติ…เป.… ปทีเปยฺยํ เทติฯ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติฯ อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติฯ วีสติมํฯ

21-50. ชลาพุชาทิทานูปการสุตฺตตฺติํสกํ

[362-391] สาวตฺถินิทานํฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ชลาพุชานํ นาคานํ…เป.… สํเสทชานํ นาคานํ…เป.… โอปปาติกานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ?

‘‘อิธ, ภิกฺขุ, เอกจฺโจ กาเยน ทฺวยการี โหติ, วาจาย ทฺวยการี, มนสา ทฺวยการีฯ ตสฺส สุตํ โหติ – ‘โอปปาติกา นาคา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา’ติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติฯ โส อนฺนํ เทติ…เป.… ปานํ เทติ…เป.… ปทีเปยฺยํ เทติฯ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติฯ อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ นาคานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติฯ

(อิมินา เปยฺยาเลน ทส ทส สุตฺตนฺตา กาตพฺพาฯ เอวํ จตูสุ โยนีสุ จตฺตาลีสํ เวยฺยากรณา โหนฺติฯ ปุริเมหิ ปน ทสหิ สุตฺตนฺเตหิ สห โหนฺติ ปณฺณาสสุตฺตนฺตาติฯ)

นาคสํยุตฺตํ สมตฺตํฯ

ตสฺสุทฺทานํ –

สุทฺธิกํ ปณีตตรํ, จตุโร จ อุโปสถา;

ตสฺส สุตํ จตุโร จ, ทานูปการา จ ตาลีสํ;

ปณฺณาส ปิณฺฑโต สุตฺตา, นาคมฺหิ สุปฺปกาสิตาติฯ

9. สุปณฺณสํยุตฺตํ

1. สุทฺธิกสุตฺตํ

[392] สาวตฺถินิทานํ ฯ ‘‘จตสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, สุปณฺณโยนิโยฯ กตมา จตสฺโส? อณฺฑชา สุปณฺณา, ชลาพุชา สุปณฺณา, สํเสทชา สุปณฺณา, โอปปาติกา สุปณฺณา – อิมา โข, ภิกฺขเว, จตสฺโส สุปณฺณโยนิโย’’ติฯ ปฐมํฯ

2. หรนฺติสุตฺตํ

[393] สาวตฺถินิทานํ ฯ ‘‘จตสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, สุปณฺณโยนิโยฯ กตมา จตสฺโส? อณฺฑชา…เป.… อิมา โข, ภิกฺขเว, จตสฺโส สุปณฺณโยนิโยฯ ตตฺร, ภิกฺขเว, อณฺฑชา สุปณฺณา อณฺฑเชว นาเค หรนฺติ, น ชลาพุเช, น สํเสทเช, น โอปปาติเกฯ ตตฺร, ภิกฺขเว, ชลาพุชา สุปณฺณา อณฺฑเช จ ชลาพุเช จ นาเค หรนฺติ, น สํเสทเช, น โอปปาติเกฯ ตตฺร, ภิกฺขเว, สํเสทชา สุปณฺณา อณฺฑเช จ ชลาพุเช จ สํเสทเช จ นาเค หรนฺติ, น โอปปาติเกฯ ตตฺร, ภิกฺขเว, โอปปาติกา สุปณฺณา อณฺฑเช จ ชลาพุเช จ สํเสทเช จ โอปปาติเก จ นาเค หรนฺติฯ อิมา โข, ภิกฺขเว, จตสฺโส สุปณฺณโยนิโย’’ติฯ ทุติยํฯ

3. ทฺวยการีสุตฺตํ

[394] สาวตฺถินิทานํฯ อญฺญตโร ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ สุปณฺณานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ? ‘‘อิธ, ภิกฺขุ, เอกจฺโจ กาเยน ทฺวยการี โหติ, วาจาย ทฺวยการี, มนสา ทฺวยการีฯ ตสฺส สุตํ โหติ – ‘อณฺฑชา สุปณฺณา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา’ติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ สุปณฺณานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติฯ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ สุปณฺณานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติฯ อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย , เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ สุปณฺณานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติฯ ตติยํฯ

4-6. ทุติยาทิทฺวยการีสุตฺตตฺติกํ

[395-397] สาวตฺถินิทานํฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ชลาพุชานํ สุปณฺณานํ…เป.… สํเสทชานํ สุปณฺณานํ…เป.… โอปปาติกานํ สุปณฺณานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ? ‘‘อิธ, ภิกฺขุ, เอกจฺโจ กาเยน ทฺวยการี โหติ, วาจาย ทฺวยการี, มนสา ทฺวยการีฯ ตสฺส สุตํ โหติ – ‘โอปปาติกา สุปณฺณา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา’ติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ สุปณฺณานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติฯ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ สุปณฺณานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติฯ อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โอปปาติกานํ สุปณฺณานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติฯ ฉฏฺฐํฯ

7-16. อณฺฑชทานูปการสุตฺตทสกํ

[398-407] สาวตฺถินิทานํ ฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ สุปณฺณานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ? ‘‘อิธ, ภิกฺขุ, เอกจฺโจ กาเยน ทฺวยการี โหติ, วาจาย ทฺวยการี, มนสา ทฺวยการีฯ ตสฺส สุตํ โหติ – ‘อณฺฑชา สุปณฺณา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา’ติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ สุปณฺณานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติฯ โส อนฺนํ เทติ…เป.… ปานํ เทติ… วตฺถํ เทติ… ยานํ เทติ… มาลํ เทติ… คนฺธํ เทติ… วิเลปนํ เทติ… เสยฺยํ เทติ… อาวสถํ เทติ… ปทีเปยฺยํ เทติฯ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ สุปณฺณานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติฯ อยํ โข, ภิกฺขุ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อณฺฑชานํ สุปณฺณานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติฯ โสฬสมํฯ